ภาคธุรกิจกระบี่ยันพร้อมใช้พลังหมุนเวียน 100% หวั่นถ่านหินทำท่องเที่ยวเสีย
เมื่อเร็วๆ นี้ ในเวทีเสวนา "บนเส้นทางสู่ความยั่งยืน: การลงทุนพลังงานและธรรมาภิบาลเพื่อการเปลี่ยนแปลง” ที่อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายธีรพจน์ กษิวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวว่า จังหวัดกระบี่ เน้นย้ำในเรื่องการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้คำว่า กระบี่ Go Green ในนโยบายการพัฒนาทุกด้าน และข้อมูลที่น่าตกใจคือ ศักยภาพของกระบี่มีความโดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยว แม้ว่าภูเก็ตทำรายได้เป็นอันดับสองของประเทศ มีรายได้ปีละประมาณ 2.6 แสนล้านบาท ขณะที่จังหวัดกระบี่ทำรายได้เป็นอันดับสี่ของประเทศ มูลค่า 7 หมื่นล้านบาท แต่ในแง่จังหวัดที่เน้นการท่องเที่ยวสิ่งแวดล้อม ไม่เน้นแสงสี กลับมีมูลค่าการท่องเที่ยวที่สูงมาก ซึ่งศักยภาพในอนาคตสามารถสูงขึ้นได้มากกว่านี้
นายธีรพจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อดูกลุ่มลูกค้าที่มาเที่ยว โดยเฉพาะตลาดบน เขาสนใจ 2 อย่างคือ ชายหาดและทะเล และ การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจะมีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากฟอสซิล ซึ่งทำลายธรรมชาติรอบข้างจึงเป็นเรื่องอ่อนไหว ทั้งในแง่ของ เรื่องพลังงาน และผลกระทบด้านการท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้ พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งของกระบี่ยังมีความสำคัญในระบบนิเวศ มีโซนที่หญ้าทะเลผืนใหญ่ของไทย เป็นที่อยู่ของฝูงพะยูนหนึ่งในสองฝูงของอันดามัน ทั้งยังมีจำนวนของแพลงตอนในปริมาณที่เยอะมาก และมีงานวิจัยที่เชื่อมโยงว่าในจุดที่มีการดำน้ำ ที่มีโอกาสเจอสัตว์น้ำขนาดใหญ่ เช่นฉลามวาฬ แมนด้าเรย์ เป็นต้น เพราะในขณะที่พื้นที่สมบูรณ์เหล่านี้ กลับมีความเสี่ยงต่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน แน่นอนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางขนส่ง เรื่องผลกระทบในทุกด้านหากมีการก่อสร้างนี่จะเป็นการเสียโอกาสในอนาคตของไทย
ทั้งนี้ นายธีรพจน์ เผยว่า ปัจจุบัน โรงแรมหลายแห่งพยายามลดการใช้พลังงาน มีโครงการที่เกี่ยวข้องในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากมาย ตัวอย่าง ถนนคนเดินปลอดโฟม ที่จะมีผลักดันในระดับภาคใต้ เป็นต้น วันนี้ กระบี่อยากจะเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน100% ยกตัวอย่างร้านมินิมาร์ทบนเกาะลันตา ใช้แอร์ทั้งหลังจากโซลาร์เซลล์ จากเดิมที่ต้องจ่ายค่าไฟเดือนละ1.2แสนบาท ตอนนี้ค่าไฟในพีคแค่7หมื่นกว่าบาท เพราะฉะนั้นถามว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ในแง่หนึ่งผู้ประกอบการคือการลดต้นทุน และอีกแง่เรื่องการท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม เป็นจุดขายของจังหวัด
“เรามีโรงงานปาล์มค่อนข้างเยอะ กระจายทั่วจังหวัดและหลายโรงเปลี่ยนน้ำเสียของโรงงานมาเป็นไบโอแก็ส ผลิตไฟฟ้าใช้ บางโรงขายให้การไฟฟ้าด้วยซ้ำ แต่ปัญหากลับกันภาครัฐ บางโรงผลิตแล้วแต่ไม่สามารถป้อนเข้าสายส่งได้” นายธีรพจน์ กล่าวและว่า ฉะนั้นศักยภาพทั้งหมดที่กระบี่มีรัฐสามารถสนับสนุนให้ใช้พลังงาน 100% ได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ให้กลายเป็นโมเดลการพัฒนา เป็นการเพิ่มจำนวนไฟฟ้าสะอาดได้อีกเยอะ
เขียนโดย : Isranews
ที่มา : Isarnews Agency/สำนักข่าวอิศรา